ปี พ.ศ. 2566

บทความวิจัย เรื่อง "ความหมาย ความสำคัญ และวิสัยทัศน์การกำกับภาพยนตร์"

ความหมาย ความสำคัญ และวิสัยทัศน์การกำกับภาพยนตร์

          ความหมาย ความสำคัญของการกำกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นบทเรียนเริ่มต้นที่สำคัญของผู้ที่ศึกษาในรายวิชาการกำกับภาพยนตร์ เนื่องจากการทำความเข้าใจกับความหมาย ความสำคัญของการกำกับภาพยนตร์ จะทำให้ทราบถึงความหมายและจุดมุ่งหมายตั้งต้นของการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ นอกจากนี้บทนี้ยังได้อธิบายถึงวิสัยทัศน์การกำกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นการอธิบายความสำคัญของวิสัยทัศน์ที่เป็นจุดกำเนิดในการสร้างงาน และสร้างความแตกต่างให้กับกระบวนการผลิตงานภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่มีความสำคัญในการวางแผนในการทำงานในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ในอนาคตต่อไป

1. ความหมายและความสำคัญของ ‘การกำกับ’
          ความหมายของ“การกำกับ” โดยทั่วไปหมายถึง การจัดการและการให้ทิศทางโดยการชี้แนะ อธิบายและให้ข้อมูล
          พจนานุกรมฉบับเคมบริดจ์ อธิบายความหมายของคำว่า “directing” ไว้ความว่า 2 ความหมายดังนี้
          1. การกำกับคือ การควบคุมหรือมีหนาที่รับผิดชอบกิจกรรม หรือองค์กร ต่างๆ
          2. การกำกับคือ การบอกทิศทางให้กับผู้คนที่มีจุดหมาย (Cambridge Dictionary, 2021: online) พจนานุกรมฉบับอ๊อกฟอร์ด อธิบายความหมายของคำว่า “directing” ไว้ความว่า 2 ความหมายเช่นเดียวกันดังนี้
         1. ควบคุมการปฏิบัติงานของสิ่งต่างๆ, จัดการหรือปกครอง
         2. มุ่ง (บางสิ่ง) ในทิศทางเฉพาะหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง (Oxford Dictionary, 2021: online) นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านภาพยนตร์ยังให้ความหมายคำว่า การกำกับภาพยนตร์ไว้ดังนี้

         ไมเคิล ราบิเกอร์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Directing: Film Techniques and Aesthetics” อธิบายความหมายคำว่า ‘directing’ ไว้ในบทคัดย่อของหนังสือไว้ความว่า “การกำกับครอบคลุมวิธีการ เทคโนโลยี กระบวนการคิด และการตัดสินที่ผู้กำกับต้องใช้ตลอดกระบวนการอันน่าทึ่งในการสร้างภาพยนตร์ หัวใจหลักของหนังสือเล่มนี้คือความรู้ด้านมนุษย์ จิตวิทยา และเทคนิคที่ผู้กำกับทุกคนต้องการ องค์ประกอบที่ยั่งยืนของงานฝีมือที่ยังคงมีความสำคัญ” (Michael Rabiger, 2013)
         นอกจากนี้ ไมเคิลยังได้ขยายความการกำกับไว้เพิ่มเติมว่า “การกำกับยังให้มุมมองที่ชัดเจนเป็นพิเศษเกี่ยวกับกระบวนการทางศิลปะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับนักแสดงและทีมงานหลักเพื่อให้ได้การเล่าเรื่องที่แสดงออกถึงตัวตนและความเป็นมืออาชีพในทุกงบประมาณ การกำกับสำรวจในรายละเอียดและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องว่าจะมีส่วนร่วมกับด้านแนวคิดและอำนาจของการสร้างภาพยนตร์อย่างไร เครื่องมือและแบบฝึกหัดที่ใช้งานได้จริงอย่างโดดเด่นแสดงวิธี: ค้นพบเอกลักษณ์ทางศิลปะของคุณ พัฒนาเรื่องราวที่น่าเชื่อถือและน่าสนใจร่วมกับนักแสดงและทีมงานของคุณ และกลายเป็นนักเล่าเรื่องที่มีน้ำเสียงและสไตล์อันโดดเด่น” (Michael Rabiger, 2013)

2. ความหมายและความสำคัญของ ‘ผู้กำกับภาพยนตร์’
         เมื่อเข้าใจความหมายของ “การกำกับ” แล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจความหมายและบทบาทของบุคคลหนึ่งที่มีความสำคัญสูงสุดในกระบวนการผลิตภาพยนตร์ ได้แก่ ‘ผู้กำกับภาพยนตร์’
         ผู้กำกับภาพยนตร์ ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า ‘Film Director’ มีผู้ให้คำจำกัดความ ความหมาย และความสำคัญของผู้กำกับภาพยนตร์ไว้ต่างๆกันดังนี้
         พจนานุกรมฉบับเคมบริดจ์ อธิบายความหมายของคำว่า ผู้กำกับภาพยนตร์ไว้ความว่า “บุคคลที่รับผิดชอบในภาพยนตร์หรือละครและทำหน้าที่บอกนักแสดงถึงการเล่นบทบาทต่างๆ อย่างไร” (Cambridge Dictionary, 2021: online)

         สารานุกรม บริทานิกา ให้คำจำกัดความของผู้กำกับภาพยนตร์สมัยใหม่ไว้ความว่า “ผู้กำกับภาพยนต์สมัยใหม่คือบุคคลที่รับผิดชอบมากที่สุดสำหรับรูปแบบ โครงสร้าง และคุณภาพขั้นสูงสุดของงานภาพยนตร์ ภาพยนตร์เป็นศิลปะแห่งการทำงานร่วมกัน และในบางกรณีอาจมีบุคคลอื่นที่มิใช่ผู้กำกับที่มีอำนาจเหนือกว่า (เช่น โปรดิวเซอร์ที่มีอำนาจเหนือฉากสุดท้ายหรือนักแสดงที่ความนิยมในบ็อกซ์ออฟฟิศทำให้เขามีอำนาจในการกำกับผู้กำกับ) แต่โดยทั่วไปแล้ว สันนิษฐานว่าผู้กำกับคือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับภาพจะต้องได้รับเครดิตหรือคำตำหนิสำหรับรูปแบบและเนื้อหาในการกำกับ” (Britannica, 2021)
         นอกจากนี้ยังมีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญยังให้ความหมายของคำว่า “ผู้กำกับการแสดง” ไว้ด้วยดังนี้
         นพมาส ศิริกายะรวบรวมความหมายของคำว่าผู้กำกับการแสดงจากนักวิชาการต่างประเทศไว้ดังนี้
         เอ็ดเวิร์ด เอ. ไรท์ (Edward A. Wright) ได้กล่าวถึงบทบาทของผู้กำกับการแสดงไว้ว่า “เป็นผู้ที่รับผิดชอบในการเลือกเฟ้น การจัดแบ่งงาน และการวางโครงงานด้านศิลปะของการจัดแสดงทั้งหมด ผู้กำกับเป็นทั้งผู้นำ ผู้ประสานงาน ผู้ชี้ทาง และผู้เชื่อมโยงส่วนประกอบต่างๆ ของละครเข้าไว้ด้วยกัน ละครเรื่องใดที่ผ่านจินตนาการของผู้กำกับจะสะท้อนลักษณะบางอย่างของตัวเขาออกมาด้วย” (นพมาส ศิริกายะ, 2525: 153)
         สุมาภา ประดับแก้ว นักวิชาการด้านภาพยนตร์ อธิบายคำว่าผู้กำกับภาพยนตร์ ไว้ดังนี้ คือ ผู้ที่มีหน้าที่กำกับในขั้นตอนการสร้างภาพยนตร์ โดยผู้กำกับภาพยนตร์มีหน้าที่สร้างจินตนาการจากบทภาพยนตร์ แล้วถ่ายทอดความคิดทางด้านศิลปะออกมาตามแบบที่ตนเองต้องการ และเป็นคนสั่งการให้ฝ่ายอื่นๆ ในกองถ่ายทำงานตามบทบาทหน้าที่ อย่างเช่น ฝ่ายผู้กำกับภาพ ผู้กำกับการแสดง ฝ่ายเทคนิค นักแสดง เพื่อให้ได้ภาพของการแสดงออกมาอยู่ในองค์ประกอบทางศิลป์ที่ตนเองต้องการบนแผ่นฟิลม์หรือในระบบดิจิทัล (สุมาภา ประดับแก้ว, 2556: 2)
         ผู้กำกับภาพยนตร์เปรียบเหมือนแม่ทัพบัญชาการรบ มีหน้าที่ควบคุมและสร้างสรรค์ให้ภาพยนตร์เกิดขึ้นตามสิ่งที่ผู้กำกับภาพยนตร์ต้องการ โดยผู้กำกับภาพยนตร์จะต้องมีคุณสมบัติ 3 ประการ ดังต่อไปนี้ ความเป็นศิลปิน คือ มีจินตนาการผนวกกับแรงบันดาลใจ และสามารถเห็นภาพอย่างชัดเจน ความเป็นครู คือ ความรู้และทักษะทางด้านภาพยนตร์ และที่สำคัญต้องสามารถถ่ายทอดออกมาให้คนอื่นรับรู้ได้อย่างเข้าใจ ความเป็นผู้บริหาร คือ มีความเป็นผู้นำ สามารถบริหารเวลาและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ผู้กำกับที่ดีควรมีคุณสมบัติ 3 อย่างเท่าๆ กัน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภคต่อไป (Thaishortfilm, 2553: ออนไลน์)
         สรุปความหมายของ ‘ผู้กำกับภาพยนตร์’ (Film Director) คือ บุคคลที่มีความสำคัญสูงสุดในกระบวนการผลิตและสร้างภาพยนตร์ เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่รับผิดชอบสูงในการควบคุมกำหนดแผนงาน และวางแนวทางในการผลิตภาพยนตร์เรื่องนั้นๆให้เป็นไปตามที่ตนเองตีความ หรือจินตนาการไว้ เนื่องจากภาพยนตร์หนึ่งเรื่องเป็นผลผลิตการทำงานร่วมกันของบุคคลจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีบุคคลผู้สามารถให้ทิศทางและควบคุมให้บุคลากรทุกฝ่ายเห็นภาพรวมการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อทำให้งานราบรื่นและสำเร็จลงตามที่คิดไว้ รวมทั้งเป็นผู้ที่รับผิดชอบสูงสุดในสายงานฝ่ายศิลปะ เป็นจุดเริ่มต้นและศูนย์รวมที่ให้เอกภาพในการแสดงออกทางศิลปะ นับตั้งแต่การแสดง การออกแบบ และการนำศิลปะแขนงต่างๆมารวมกันเข้าอย่างได้สัดส่วน ทำให้เกิดผลรวมที่มีความสมบูรณ์และมีคุณค่าเหมาะสมที่จะเสนอต่อผู้ชม

3. วิสัยทัศน์กับการกำกับภาพยนตร์
         ผู้รู้และนักวิชาการได้ให้คำจำกัดความของคำว่าวิสัยทัศน์ไว้ดังนี้ “วิสัยทัศน์ คือศิลปะแห่งการเห็นในสิ่งที่ผู้อื่นมองไม่เห็น” (Vision is the art of seeing what is invisible to others.) Jonathan Swift
         “วิสัยทัศน์คือจังหวะการสร้างสรรค์ที่แท้จริง” (Vision is the true creative rhythm.) Robert Delaunay
         “เมื่อคุณมีวิสัยทัศน์ที่แข็งแรงเพียงพอและทรงพลังเพียงพอ ไม่มีอะไรมาขวางทางคุณได้” (When you have a vision that is strong enough and powerful enough, nothing can stand in your way.) Lewis Howes

         ‘วิสัยทัศน์’ คือ การสร้างสรรค์ชีวิตและความหมายให้เกิดขึ้นในโลกแห่งศิลปะ ตัวอย่างที่เราเห็นได้ อาทิ ปฏิมากรคนหนึ่งเดินไปพบแท่งหินก้อนหนึ่ง เมื่อเขามองหินก้อนนั้นแล้วเกิดการมองเห็นรูปร่างบางสิ่งบางอย่างในหินก้อนนั้น เขาจึงได้เปลี่ยนแปลงให้หินก้อนนั้นให้กลายเป็นงานศิลปะ เฉกเช่นที่มิเกลันเจโล ได้สร้างสรรค์งานอันยิ่งใหญ่ให้เป็นมรดกโลกจวบจนทุกวันนี้ หรือในทำนองเดียวกันนักประพันธ์นำเอาประสบการณ์ที่เข้มข้นของมนุษย์มาเรียงร้อยเป็นบทกวี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับความหมายของชีวิตมนุษย์ หรือในด้านของนักแสดง วิสัยทัศน์ก็ได้เปลี่ยนตัวละครที่อยู่ในบทละครให้ออกมาโลดแล่นเสมือนมีชีวิต และมีมิติของความเป็นมนุษย์อยู่บนเวที  พลังแห่งจินตนาการของ  ผู้กำกับการแสดงก็เช่นเดียวกัน สามารถ “สร้างชีวิตให้คืนกลับมา” โดยวิสัยทัศน์ดังกล่าวนั้นได้ก่อให้เกิดผลผลิตเป็นงานภาพยนตร์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจากบทที่เป็นเพียงหน้ากระดาษ  ที่ไร้ชีวิตมาสู่การมีชีวิตบนหน้าจอ ดังนั้น วิสัยทัศน์กับการกำกับภาพยนตร์ จึงเป็นการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางศิลปะให้เกิดขึ้นกับการผลิตงานในสื่อต่างๆ ผู้กำกับทั้งหลาย ทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นหรือเป็นผู้ช่ำชองในงานมาแล้วก็ตาม จำเป็นที่จะต้องทำงานให้ต่อเนื่องเพื่อที่จะเพิ่มพูนความสามารถในการคิดอย่างผู้กำกับ รวมทั้งเพื่อพัฒนาพลังในด้านวิสัยทัศน์ของตนเอง ดังนั้นผู้กำกับจึงจำเป็นต้องอ่านและดูให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกสรรเรื่องสักเรื่องหนึ่งเพื่อมากำกับ ผู้กำกับก็จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างทุ่มเทเช่นเดียวกับที่ศิลปินแขนงอื่นๆได้อุทิศเวลาทั้งหมดของเขาให้กับงาน
          กุญแจสำคัญในการสร้างวิสัยทัศน์ให้กับผู้กำกับนั้นก็คือ กระบวนการทำให้เกิดงานสร้างสรรค์ขึ้นในสมองของผู้กำกับการ โดยอาศัยจินตนาการว่า ‘ได้ยิน’ เสียงพูดของนักแสดง และ ‘เห็นภาพ’ ที่เต็มไปด้วยการแสดงและการเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ ในจินตนาการนั้น ผู้กำกับสามารถจินตนาการได้ว่าจะมีนักแสดงคนใดบ้างที่ตนต้องการ หรือในด้านของฉากต่างๆ ผู้กำกับก็สามารถสร้างสรรค์งานได้ทุกรูปแบบโดยไม่มีเรื่องของเงินและวิธีการสร้างงานมาเป็นเครื่องจำกัด เช่นเดียวกับบท ซึ่งสำหรับผู้กำกับแล้วอาจเป็นเสมือนแท่งหินที่รอการสลักเสลา วัตถุดิบต่างๆนั้นก็ประกอบด้วยแก่นสารของชีวิต ซึ่งผู้กำกับต้องทำให้แท่งหินนั้นเป็นอิสระจากรูปร่างเบื้องต้น
          ศิลปะในการกำกับนั้นเริ่มต้นจากการ ‘มองเห็น’ ในสิ่งที่ ‘มองไม่เห็น’  ซึ่งมีอยู่ในบท โดยศิลปะของการกำกับนั้นแท้จริงก็คือ การสร้างสรรค์การแสดงรวมทั้งกลไกต่างๆ เพื่อที่จะสื่อสารวิสัยทัศน์ของ ผู้กำกับการแสดงไปสู่ผู้ชมให้ได้ดีที่สุด คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ แล้วผู้กำกับควรจะเริ่มต้นจากตรงไหน ผู้กำกับบางคนพบว่าวิสัยทัศน์ทางศิลปะของเขานั้นเกิดจากการที่เห็นตัวละครตกอยู่ในความขัดแย้งจากการวางแผนของตน และมีปฏิกิริยากับอุปสรรคดังกล่าวนั้น หรือผู้กำกับคนอื่นอาจเริ่มจากความคิดรวบยอด หรือความหมายในตัวบท ในขณะที่ผู้กำกับบางคนก็อาจจะมีปฏิกิริยากับนาฏการ และโครงเรื่อง เป็นต้น ทุกๆ กรณีที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า วิสัยทัศน์ ของผู้กำกับนั้นล้วนนำ ‘ชีวิต’ กลับมาสู่บทซึ่งก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้น
           แรงจูงใจประการแรกในการทำงานของผู้กำกับนั้นก็คือ ‘ความปรารถนา หรือความอยาก’ ที่จะกำกับ แต่สิ่งที่เหนือไปกว่านั้นก็คือ ความต้องการที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์ของเขาหรือเธอให้กับผู้ชมให้ได้รับรู้  และนอกจากนี้ในช่วงของการทำงานผู้กำกับย่อมมองหาผู้ร่วมงานที่จะสามารถทำงานและประสานสัมพันธ์กันได้ บุคคลเหล่านั้น ได้แก่ นักแสดง นักออกแบบ ฝ่ายจัดการ เป็นต้น  บุคคลต่างๆ ที่กล่าวถึงเหล่านี้เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ให้กับผู้ชม โดยมีผู้กำกับเป็นผู้ผสานให้ทุกฝ่ายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และถ้าจะเปรียบผู้ประพันธ์บทเป็นเสมือนผู้ที่ขับเคลื่อนให้เกิดการเล่าเรื่องราวซึ่งสะท้อนทัศนะคติของเขาหรือเธอที่มีต่อโลกแล้วล่ะก็ ผู้กำกับก็เปรียบได้กับผู้สื่อสารเรื่องราวดังกล่าวนั้นผ่านจอภาพ
           ผู้กำกับไม่ควรจะพอใจอยู่แค่เพียงวิสัยทัศน์ของตนเองเท่านั้น เขาหรือเธอควรจะเป็นผู้ที่มีเหตุมีผล และมีวิสัยทัศน์ทางภาพยนตร์เป็นอย่างดีด้วย ดังนั้นก้าวแรกของการค้นหาวิสัยทัศน์นั้นจึงจำเป็นที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์ และตีความหมายบทอย่างระมัดระวัง และภายหลังจากที่วิเคราะห์และตีความหมายบทได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ผู้กำกับจึงค่อยเริ่มงานในด้านการวางแผน ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็ต้องทำอย่างระมัดระวังเช่นเดียวกัน ขั้นตอนช่วงการวางแผนนั้นประกอบด้วย การเตรียมสมุดคู่มือการกำกับการแสดง, คู่มือและแนวทางในการคัดเลือกนักแสดง, การวางแผนการซ้อม และทำตารางการซ้อมที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ การทำงานร่วมกับนักแสดงเพื่อเข้าสู่บทบาทของตัวละครการจัดวางตำแหน่งการเคลื่อนไหว ตลอดจนการใช้เสียงดนตรี รวมทั้งภาพที่จะปรากฏ กระบวนการในขั้นตอนนี้ก็คือการทำให้วิสัยทัศน์เกิดเป็นภาพที่มีชีวิต (Catron, 1989: 2-5)

สรุป
           ความหมาย ความสำคัญของการกำกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นบทเรียนเริ่มต้นที่สำคัญของผู้ที่ศึกษาในรายวิชาการกำกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มีคุณค่าและก่อให้เกิดผลงานภาพยนตร์ขึ้นในโลกบันเทิง นอกจากนี้ ยังรวมถึงการอธิบายความหมายของผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งที่มีความสำคัญสูงสุดในกระบวนการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ และอธิบายความสำคัญของวิสัยทัศน์ที่เป็นจุดกำเนิดในการสร้างงาน และสร้างความแตกต่างให้กับกระบวนการผลิตงานภาพยนตร์ ผู้ที่เริ่มต้นทำงานในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ ควรศึกษาและฝึกสร้างวิสัยทัศน์ให้กับการทำงาน เพื่อจะเป็นผู้ที่สามารถสร้างสรรค์สื่อภาพยนตร์ที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อผู้ชมต่อไปในอนาคต

โดย..ผศ.ดร.สามมิติ สุขบรรจง
อาจารย์ประจำสาขาวิชาการแสดงและกำกับการแสดงภาพยนตร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มศว